quick
menu

ข่าว
อีเว้นท์
Battle Pass Operation Sand Storm Story
01.Jul.2023



https://www.youtube.com/watch?v=fiycR8xmjNQ




Story of Tactical Keeneyes


Episode I 



กลุ่มผู้ก่อกบฏได้เริ่มรวบรวมกองกำลังและทำการประท้วง เพื่อเรียกร้องให้ชาวพื้นเมืองปฏิบัติกับผู้อพยพอย่างเท่าเทียม  


กลางดึกคืนหนึ่ง....... กลุ่ม Free labels ได้เข้าบุกโจมตีหมู่บ้าน Black Mamba และนำตัวชาวพื้นเมืองในหมู่บ้านไปซ่อนไว้ รัฐบาลจึงเริ่มปฏิบัติการภารกิจบุกทำลายฐานทัพ และช่วยเหลือตัวประกันในทันที


Training Camp 



“Keeneyes” ที่เพิ่งจะจบหลักสูตรทหาร  จึงถูกเกณฑ์เข้าไปเป็นหน่วยบุกรุกประจำฐานหลัก CT-FORCE อย่างเป็นทางการทันที เธอจะต้องออกปฏิบัติการร่วมกับหน่วยรบแนวหน้าเพื่อรับมือภารกิจช่วยเหลือในครั้งนี้ และเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น พลทหารใหม่.....จำเป็นต้องเข้าค่ายฝึกฝนความแข็งแกร่ง และกลยุทธิ์ทางทหารในค่ายฝึกฝนหลักของ CT-FORCE ที่ Training Camp



Sentry Base


1 เดือนผ่านไป...............


ฝ่ายกลุ่มผู้ก่อกบฏคอยส่งสัญญาณให้ทางรัฐบาลอยู่เรื่อย ๆ ผ่านการออกมาประท้วงของเหล่าผู้อพยพที่ที่ถูกกดขี่ การแสดงออกรุนแรงขึ้นทุกขณะ ที่ ศูนย์กลางของเมืองหลวง กลุ่มผู้ต่อต้านออกมาชุมนุมกันยามวิกาล จุดไฟเผาบ้านเรือน รัฐบาลจำต้องส่งเหล่าทหารใหม่ออกมาฝึกฝน ผ่านการออกมาปราบปรามเหล่าผู้ก่อกบฏ ดูแลความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยชาวพื้นเมือง ในทุกครั้งแกนนำของผู้ก่อกบฏจะได้รับตัวประกันเป็นครอบครัวชาวพื้นเมืองกลับไปด้วยทุกครั้ง ตัวประกันเริ่มมีมากขึ้น การออกปฏิบัติการปราบปรามจึงต้องเร่งดำเนินการ  

ในตอนนั้นเองที่ Keeneyes ถูกย้ายมาประจำการ ที่ฐานทัพหลักของรัฐบาล Sentry Base ที่นี่เธอได้พบกับ Hide หัวหน้าหน่วยรบพิเศษของ CT-FORCE และสมาชิกหน่วยรบแนวหน้าที่จะต้องออกปฏิบัติการร่วมกันในครั้งนี้ 



Desert Camp

เช้าวันถัดมา.... หน่วยรบแนวหน้าเริ่มออกเดินทางไปยัง ฐานทัพย่อยที่ทางรัฐบาลจัดตั้งไว้เพื่อสอดแนมฐานทัพศัตรูจากระยะไกล Desert Camp ฐานทัพนี้ตั้งอยู่กลางทะเลทราย รายล้อมไปด้วยกลุ่มหินงอกสูงชัน เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่เหมาะกับการตั้งฐานและซ่อนตัว กลางทะเลทรายอันแห้งเหือด ที่นี่ Keeneyes และทีมได้รับเบาะแสเกี่ยวกับฝ่ายผู้ก่อกบฏจากทีมสอดแนม ฐานย่อยนี้ตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้าน Black Mamba เพียงไม่กี่ไมล์เท่านั้น จากข้อมูลของทีมสอดแนม และทีมสำรวจพบว่า สถานที่ที่ Free Rabels กบดานอยู่ที่ฝั่งใต้สุดของทะเลทราย Sand storm  


การบุกรุกจะเริ่มต้นตอนหัวค่ำ หน่วยรบแนวหน้าตระเตรียมอาวุธ และอุปกรณ์ที่จำเป็นในการช่วยเหลือตัวประกันให้พร้อม ฝั่งศัตรูยังคงนิ่งเงียบ ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ เมื่อตะวันลับขอบฟ้าหน่วยรบพิเศษทั้งหมดจึงเริ่มออกเดินทางทันที



Black Mamba

ทีมเดินทางมาถึงหมู่บ้านที่เกิดเหตุ Black Mamba โดยสวัสดิภาพ นับว่าเป็นที่น่าแปลกใจมากที่ไม่มีการโจมตีจากฝ่ายกบฏ แต่ก็ถือเป็นสัญญานที่ดี ว่าการปฏิบัติการครั้งนี้อาจจะสำเร็จลุล่วง ประวัติโดยสังเขปของ Black Mamba หรือที่คนในเมืองหลวงรู้จักกันในนามหมู่บ้านอสรพิษ ว่ากันว่ากลุ่มชาวพื้นเมืองร่วมกันก่อตั้งหมู่บ้านนี้ขึ้น บนทะเลทรายที่ห่างไกลเมืองหลวง เพื่อให้อยู่ห่างไกลจากการควบคุมของรัฐบาล ที่นี่ไม่มีผู้อพยพ และเต็มไปด้วยความสงบ สมาชิกในหมู่บ้านล้วนแล้วแต่เป็นทหารเก่าปลดประจำการ และครอบครัวของทหารเหล่านั้น อาจจะดูไม่สมเหตุสมผลที่กลุ่มผู้ก่อกบฏจะจับตัวชาวบ้านจากที่นี่ไป เพราะเป็นหมู่บ้านที่รัฐบาลไม่เคยเอ่ยถึง และยิ่งไม่สมเหตุสมผลเข้าไปอีกเมื่อทีมที่ถูกส่งมาปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นหน่วยรบแนวหน้า ที่เต็มไปด้วยทหารมากฝีมือ  

สภาพหมู่บ้านในตอนนี้เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง ร่องรอยการโจมตีเล็กน้อย และกล่องสินค้าที่ว่างเปล่าวางกระจัดกระจาย บางทีผู้ก่อกบฏอาจจะเพียงแค่เข้ามาปล้นของกินของใช้ หรือนี่จะเป็นเพียงแค่การข่มขู่จากกลุ่มผู้ก่อกบฏ ยิ่งเสาะหาเบาะแส ก็ยิ่งมีแต่เรื่องไม่สมเหตุสมผล  


Keeneyes ไม่ได้สนใจก้อนความคิดเกี่ยวกับความน่าจะเป็นของเหตุการณ์นี้เท่าไรนัก การช่วยเหลือตัวประกันยังคงเป็นภารกิจอันดับหนึ่ง การเสาะหาเบาะแสดำเนินต่อไป ยังไม่ทันข้ามคืนก็เจอเบาะแสที่ยืนยันถึงฐานที่ตั้งของฝ่ายผู้ก่อกบฏ ทีมเตรียมพร้อมบุกในเช้าวันรุ่งขึ้นทันที.....



Sand Strom



ณ พื้นที่ใต้สุดของทะเลทราย Sand Strom พื้นที่พิศวงที่รู้กันว่า มีพานยุทะเลทรายเกิดขึ้นมากที่สุด กันดารมากที่สุด ในตอนแรกรัฐบาล คิดไม่ถึงว่าพื้นที่แห่งนี้จะมีการตั้งฐานทัพ หรือแม้แต่การตั้งบ้านเรือนอาศัย แต่ที่อันตรายที่สุด คือที่ปลอดภัยที่สุด กลุ่มผู้ก่อกบฏจัดตั้งฐานทัพขึ้นมา ก่อสร้างกำแพงอิฐ ป้องกันพายุ และดำเนินการต่อต้านจากที่นี่ รวมถึงจับตัวประกันไว้ด้วย  Keeneyes นำทีมเข้าต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อกบฏ และช่วยเหลือชาวบ้านในทันที  


ในขณะที่การต่อสู้ดำเนินไปด้วยความดุเดือด กำลังเสริมพร้อมอาวุธ และรถถังของรัฐบาลก็นำทัพมาสมทบ ฐานหลักของกลุ่มผู้ก่อกบฏถูกระเบิดทำลาย ชาวบ้านได้รับการช่วยเหลือ รัฐบาลได้รับอาวุธ และของที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายขโมยไปกลับคืน Keen eyes และทีมกลับสู่เมืองหลวง พร้อมเกียรติยศ และคำชื่นชม  


ในอีกด้านหนึ่งท่ามกลางความปิติยินดีของเมืองหลวง ที่ทลายกลุ่มผู้ก่อกบฏได้แล้ว “ Viper Red “ หนึ่งในแกนนำก่อกบฏ ได้นำกลุ่มผู้ก่อกบฏกลุ่มหนึ่ง หนีการโจมตีออกไปได้ทันเวลา เธอยืนมองกลุ่มรัฐบาล เข้าโจมตีพวกพ้องแล้วจากที่นั่น ไปด้วยความคับแค้นใจ การประท้วงครั้งนี้ไม่เป็นผล เธอจึงวางแผนจะหนีออกนอกประเทศ รวบรวมความช่วยเหลือ และกลับมาทวงคืนความเท่าเทียมอีกครั้ง 








Machu Picchu 

หลังจากการทลายกลุ่มผู้ก่อกบฏที่ฐาน Sand Strom Viper Red  หนึ่งในแกนนำสามารถพาผู้ก่อกบฏหนีออกมาได้กลุ่มหนึ่ง เมื่อฝั่งรัฐบาลล่วงรู้เรื่องนี้เข้าจึงเริ่มปฏิบัติการตามหากลุ่มผู้หลบหนีทันที ทำให้ Viper Red ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้หลบหนีต้องหนีออกไปกบดานที่นอกประเทศ ผ่านไปไม่นาน Viper Red ก็เดินทางมาถึงยังประเทศเปรู และแหล่งกบดานที่ดีที่สุดเห็นจะเป็นเมืองร้าง Machu Picchu ในหุบเขาห่างไกลเมืองหลวง  


ณ ที่นั่นเอง Viper Red และทีม ได้เจอเข้ากับกลุ่มผู้อพยพอีกกลุ่มหนึ่งที่กบดานอยู่ที่นี่มาก่อน ผู้คนเหล่านี้ประสบชะตากรรมเดียวกันกับผู้อพยพอื่น ๆ ที่ไม่ได้รับการต้อนรับจากชาวเมือง เนื่องจากเป็นพวกนอกรีต และพยายามเรียกร้องความยุติธรรมเช่นเดียวกันกับกลุ่มกบฏอิสระ  เมื่อเมืองหลวงไม่ต้อนรับ พวกเขาจึงต้องร่อนเร่อยู่ในหุบเขา และได้แต่ตั้งรกรากอยู่ที่นี่ใช้ชีวิตอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ ซึ่ง  Viper Red และพวกพ้องก็ได้รับการต้อนรับอย่างเป็นมิตรจากพวกเขา 


ระหว่างที่อาศัยอยู่ที่นี่ Viper Red ก็ไม่หยุดที่จะวางแผนแก้แค้นพวกรัฐบาลที่บุกทำลายและสังหารพวกของตน ในขณะที่การปฏิบัติการล้างแค้นกำลังจะเริ่มต้น Viper Red ได้พบกับผู้อพยพคนหนึ่ง เขาเห็นว่า Viper Red กำลังจะไปจัดการพวกรัฐบาล จึงได้เล่าเรื่องราวที่ตนเองเคยเกือบโดนรัฐบาลจับไปทำการทดลองในโครงการลับให้ Viper Red ฟัง ทางด้าน Viper Red เห็นว่า นี่จะเป็นโอกาสที่เธอจะได้เปิดโปงรัฐบาลให้พวก ชาวเมือง และผู้อพยพทุกคนได้รู้ถึงความจริงภายใต้หน้ากากผู้ปกครองที่แสนซื่อสัตย์ของรัฐบาลนี้ และเพื่อตามสืบเรื่องราวโครงการลับ Viper Red จึงเร่งออกเดินทางไปยัง Fatal Zone ฐานห้องทดลองอีกแห่งของรัฐบาลตามคำบอกเล่าของผู้อพยพ




Fatal Zone

Fatal Zone มองภายนอกเหมือนเป็นโรงงานร้างที่ไม่มีใครใช้งานมาเป็นเวลานาน โครงสร้างมีสนิมเขรอะ พุพังบ้างตามกาลเวลา  และไม่มีทหารเฝ้ายามแต่อย่างใด หากมีการทำการทดลองอย่างที่ได้ข้อมูลมาจริง รัฐบาลก็คงทิ้งโรงงานนี้ไปนานแล้ว ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด อาจจะเกิดอุบัติเหตุภายในที่ไม่คาดคิด หรืออะไรบางอย่าง ทำให้สถานที่แห่งนี้โดนกวาดล้างอุปกรณออกไปจนหมด Viper red ได้แต่คาดหวังว่าจะมีเบาะแสที่สามารถสืบเรื่องราวเบื้อหลังของรัฐบาลกับโรงงานนี้หลงเหลืออยู่บ้าง   


Viper Red และทีมเริ่มแยกย้ายออกสำรวจทันที เข้าไปยังทุกซอกทุกมุมของตัวอาคาร พยายามขุดคุ้ยหาความผิดปกติ  แต่กลับไม่พบสิ่งใดเลย รัฐบาลได้ทำการทำลายหลักฐานออกไปหมดแล้วจริง ๆ แต่ในขณะที่ Viper Red กำลังจะยอมแพ้แล้วนั้น ลูกทีมคนหนึ่งก็เจอกับแฟ้มเอกสารเล่มบาง ที่หล่นอยู่ในซอกของตู้เอกสารขนาดใหญ่ในห้องโถงกลาง ถือว่าโชคเข้าข้าง Viper Red รีบเปิดดูทันที ในแฟ้มเอกสารนั้น มีเอกสารข้อมูลโครงการขั้นต้น ระบุถึงวัตถุประสงค์ของโครงการ ทดสอบความแข็งแกร่งพลทหารอะไรสักอย่าง น้ำหมึกพิมพ์บางส่วนบนกระดาษ โดนคราบเขม่าปิดทับจนสีหมึกก็จางหายไปแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Viper Red ตาเป็นประกายขึ้นมาก็คือ ลายเซ็นของผู้มีอำนาจคนหนึ่ง ที่ยังสามารถอ่านได้ชัดเจน ลายเซ็นนี้ Viper Red จำได้ขึ้นใจ เพราะมันคือ Hide หัวหน้าแนวรบหลักของ CT-FORCE นั่นเอง 







Battle Pass : Strike Back Part 2

ระยะเวลาเข้าร่วม Battle Pass : 5 กันยายน - 24 ตุลาคม 2566








   

   


TOP quick
menu